วันจันทร์ที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2559

infinitive

การใช้ infinitive ในภาษาอังกฤษ
Infinitive คืออะไร? หลายคนอาจจะงง แต่ถ้าบอกว่า คือคำกริยารูปปกติหรือกริยาช่องที่ 1 ธรรมดา(ไม่ผันไม่เติม )ก็จะต้องร้องอ๋อทันที! ก็จะไม่อ๋อ! ได้ไง verb รูปนี้เรียนก่อนรูปอื่นเลย คงไม่มีใครเรียนคำว่า sleeping ก่อน sleep จริงมั๊ยคะ?
ในภาษาอังกฤษ Infinitive มี 2 ประเภทคือ
  • Infinitive with to
  • Infinitive without to
1. Infinitive with to – คือกริยารูปธรรมดาที่นำหน้าด้วย to ( to + infinitive ) การนำไปใช้ของ Infinitive with to มีดังนี้ค่ะ
1.1 เป็นประธานของประโยค เช่น
  • To tell the truth is sometimes difficult.
    การบอกความจริงบางครั้งก็ทำยาก
  • To love is to risk.
    การรักคือการเสี่ยง
1.2 เป็นกรรมของประโยค เช่น
  • I want to take a rest.
    ฉันอยากจะพักผ่อน
  • She loves to cook.
    หล่อนชอบการทำอาหาร
1.3 เป็นส่วนเติมเต็มของประโยคหรือ complement ซึ่งมักจะตามหลัง Verb to be เช่น
  • The purpose of this valve is to control the flow.
    ประโยชน์ของวาล์วนี้ก็คือเอาไว้ควบคุมการไหลของน้ำ
  • My plan is to finish this project by January.
    แผนการของฉันคือการทำโครงการนี้ให้เสร็จภายในเดือนมกราคม
หน้าที่ทั้งหมดที่กล่าวไว้ด้านบนจะเห็นว่าคือหน้าที่ของคำนาม ฉะนั้น To infinitive หรือ infinitive with to จึงทำหน้าที่เสมือนคำนามเหมือนกับ Gerund แต่ยังไม่หมดแค่นี้ค่ะ!! เราอาจจะเจอ Infinitive with to ในลักษณะอื่นก็ได้ เช่น
1. ตามหลังคำกริยาต่อไปนี้ attempt (พยายาม), agree(เห็นด้วย), decide (ตัดสินใจ), forget(ลืม), hope(หวังว่า), intend(ตั้งใจ), plan(วางแผน), promise(สัญญา), pretend(แสร้งทำ), begin(เริ่ม), continue(ทำต่อไป), etc. ซึ่งยังมีอีกหลายคำ แต่ที่เลือกมานี้คือกริยาที่ควรจะต้องรู้ว่ามันตามหลังด้วย infinitive with to เพราะต้องใช้และเจอบ่อยมาก!! เช่น
  • We intend to move to Bangkok soon.
    พวกเราตั้งใจจะย้ายบ้านเร็วๆนี้
  • After New Year, I plan to work harder.
    หลังจากปีใหม่นี้ ฉันวางแผนที่จะทำงานให้หนักขึ้นกว่าเดิม
  • She agrees to come with us.
    หล่อนตกลงที่จะไปกับเรา
** คำกริยาบางคำสามารถมีกรรมตามหลังก่อนได้แล้วค่อยตามด้วย infinitive with to เช่น
  • The travel agency allowed us to change our booking.
    บริษัทท่องเที่ยวอนุญาตให้เราเปลี่ยนการจองได้
  • Who taught the girl to dance? ใครสอนเด็กคนนั้นเต้น?
    I warned him not to call me again. ฉันเตือนเขาไม่ให้โทรมาอีก
2. เป็นคำขยายคำนามหรือ คำคุณศัพท์ ซึ่งมักจะวางตามหลังนาหรือคุณศัพท์นั้นๆ เช่น
ขยายนาม
  • We’ve got a problem to discuss.
    เรามีปัญหาที่ต้องปรึกษากัน
  • This is a pill to help you sleep.
    นี่เป็นยาที่จะช่วยให้คุณหลับ
ขยายคุณศัพท์
  • I’m so glad to see you.
    ฉันดีใจมากๆที่ได้เจอคุณ
  • Are you ready to begin?
    คุณพร้อมที่จะเริ่มเลยไหม?
  • I’m determined to get that job.
    ฉันมุ่งมั่นที่จะได้งานนั้น
3. ตามหลัง wh-Question เพื่อแสดงการสอบถาม การแนะนำหรือรับทราบ เช่น
  • I don’t know what to do.
    ฉันไม่รู้ว่าต้องทำยังไง
  • Can you tell me how to get to the station?
    บอกหน่อยได้ไหมครับว่าจะไปสถานีได้ยังไง
2. Infinitive without to – คือกริยารูปธรรมดาที่ไม่มี to นำหน้า ซึ่งจะอยู่ตามหลัง modal verb (กริยาช่วย) เช่น can, could, will, would, may, might, shall, should, must, need, dare
  • She may forget to call you.
    หล่อนอาจจะลืมโทรหาคุณ
  • You should stop smoking.
    คุณควรจะเลิกสูบบุหรี่
และบางครั้งก็วางไว้หลังวลีเหล่านี้ เช่น had better, would rather, had rather, would sooner, had sooner, cannot but ตัวอย่างประโยคเช่น
  • You had better sleep early tonight.
    คืนนี้คุณน่าจะเข้านอนเร็ว
และถ้ากริยาที่ตามหลังกริยาที่แสดงการรับรู้หรือกริยาต่อไปนี้ เช่น see, feel, hear, smell, watch, let, make, help, notice, observe, etc.
  • I saw him walk across the road.
    ผมเห็นเขาข้ามถนน
  • You make me understand the lesson.
    คุณทำให้ฉันเข้าใจบทเรียน
  • She lets me go home early.
    หล่อนอนุญาตให้ฉันกลับบ้านได้